คุณอยู่ที่

  • บทความ
  • ผลิตภัณฑ์ธนาคาร
  • ช่องทางบริการธนาคาร
  • เกี่ยวกับเรา
  • บริการช่วยเหลือ
  • ลิงก์ด่วน
ผลิตภัณฑ์ธนาคาร
เกี่ยวกับเรา
Financial Guru
Business Maker
Lifestyle Tips
ลงทุน
บริการโอนเงินระหว่างประเทศ
CIMB THAI App
ข่าวและกิจกรรม

 

คุณเคยได้ยินประโยคที่ว่า ความแน่นอนในชีวิตคือความไม่แน่นอน ไหม? เพราะทุกวันนี้ ไม่มีใครสามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น นี่จึงอาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่หลาย ๆ คน มองหาแผนประกันชีวิตที่ครอบคลุมกับความต้องการของตัวเองมากที่สุด อีกทั้งในปัจจุบัน ประกันชีวิต ก็มีรูปแบบความคุ้มครองที่แตกต่างกันออกไป บทความนี้ เราจะมาพูดถึงประกันชีวิตกันว่า ทำไมเราถึงต้องมี แล้ว ประกันชีวิตแบบไหนที่เหมาะกับเรา

 

ทำไมเราถึงต้องทำ ประกันชีวิต

เคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมเราถึงต้องทำประกันชีวิต ทั้ง ๆ ที่สุขภาพก็แข็งแรงดี ไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องมีเลย หรือบางคนที่เป็นพนักงานบริษัท ก็มีประกันกลุ่มอยู่แล้ว น่าจะเพียงพอนะ ทำไมเราต้องมาจ่ายเบี้ยทิ้งทั้งที่ไม่ได้เจ็บป่วยอะไร หลาย ๆ คนอาจจะคิดแบบนี้ใช่ไหม จริงอยู่ว่า ประกันชีวิต เป็นสัญญาที่ทำขึ้นระหว่างผู้เอาประกันภัยกับบริษัทประกันภัย โดยผู้เอาประกันภัยตกลงที่จะจ่ายเบี้ยประกันภัยให้แก่บริษัทประกันภัยเป็นงวด ๆ เพื่อแลกกับความคุ้มครองในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ โดยผู้รับผลประโยชน์จากประกันชีวิตจะได้รับเงินชดเชยจากบริษัทประกันภัยตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ และนี่คือเหตุผลที่ทำไมเราถึงต้องทำ ประกันชีวิต

 

 

1. ประกันชีวิต ช่วยให้เรารู้สึกอุ่นใจ

เพราะชีวิตเต็มไปด้วยความเสี่ยงที่เราไม่สามารถคาดเดาอนาคตได้ การมีประกันชีวิตเปรียบเสมือนการสร้างหลักประกัน ช่วยให้เรารู้สึกอุ่นใจ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข 

 

2. ประกันชีวิต ลดหย่อนภาษีได้

การจ่ายเบี้ยประกันชีวิต สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ช่วยให้เราจ่ายภาษีน้อยลง มีเงินเหลือเก็บมากขึ้น โดยประเภทของประกันที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ มีดังนี้

2.1 ประกันสุขภาพที่ทำให้ตัวเอง

สามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีตามที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 25,000 บาท กรณีทำประกันสุขภาพร่วมกับประกันชีวิตทั่วไปหรือเงินฝากแบบมีประกันชีวิต จะต้องไม่เกิน 100,000 บาท โดยประกันสุขภาพที่สามารถลดหย่อนภาษีได้ มีดังนี้

  • ประกันสุขภาพ : ให้ความคุ้มครองด้านการรักษาพยาบาล การชดเชยกรณีทุพพลภาพ จากการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ

  • ประกันภัยอุบัติเหตุ : เฉพาะด้านการรักษาพยาบาล ทุพพลภาพ รวมถึงการแตกหักของกระดูก

  • ประกันภัยโรคร้ายแรง

 

2.2 ประกันสุขภาพพ่อแม่/คู่สมรส

  • ประกันสุขภาพพ่อแม่ สามารถลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งจะหักตามที่จ่ายจริงสูงสุดไม่เกินคนละ 15,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่า พ่อหรือแม่จะต้องมีเงินได้ไม่เกิน 30,000 บาท ในปีภาษีนั้น ๆ

  • ประกันให้คู่สมรส สามารถลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท

 

3. ประกันชีวิต ช่วยให้เรามีเงินเก็บ

ประกันชีวิตบางประเภท มีลักษณะคล้ายการออมเงิน ช่วยให้มีวินัยในการเก็บออม และได้ผลตอบแทนในอนาคต ยกตัวอย่างเช่น

  • ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ : จ่ายเบี้ยประกันเป็นประจำ ได้รับเงินคืนเป็นงวด หรือเงินก้อนเมื่อครบกำหนด

  • ประกันชีวิตควบการลงทุน: เน้นการออมเงิน มีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน

 

4. ประกันชีวิต ช่วยให้เรามีเงินออมหลังเกษียณ

เมื่อเราเกษียณอายุ รายได้อาจลดลง ประกันชีวิตบางประเภทมีการออมเงินควบอยู่ด้วย ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นเงินบำนาญในยามเกษียณได้ ยกตัวอย่างเช่น

  • ประกันชีวิตแบบบำนาญ: จ่ายเบี้ยประกันเป็นประจำ เมื่อครบกำหนดอายุ จะได้รับเงินบำนาญรายเดือน

  • การถอนเงินจากกรมธรรม์: ประกันชีวิตบางประเภท สามารถถอนเงินออกมาใช้ได้ เมื่อครบกำหนด

และนี่คือเหตุผลดี ๆ ที่ทำไมเราถึงต้องมี ประกันชีวิต เนื่องจาก ประกันชีวิต เปรียบเสมือนการลงทุนที่มีหลักประกันช่วยคุ้มครองให้เรารู้สึกปลอดภัย อุ่นใจทุกครั้งเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความมั่นคง ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข 

 

ประกันชีวิต คุ้มครองอะไรบ้าง?

ประกันชีวิตแต่ละประเภท ให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์ ซึ่งปัจจุบันก็มีการประกันในหลายรูปแบบ เช่น ประกันอุบัติเหตุ, ประกันชีวิต+ประกันสุขภาพ, ประกันโรคร้ายแรง ฯลฯ โดยทั่วไป ประกันชีวิตจะคุ้มครองดังนี้

  • คุ้มครองกรณีเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์

  • คุ้มครองกรณีเสียชีวิต บริษัทประกันจะจ่ายเงินชดเชยตามจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ แก่ผู้รับผลประโยชน์ ได้แก่ ครอบครัวของผู้เอาประกัน

  • คุ้มครองกรณีทุพพลภาพ ไม่สามารถทำงานหารายได้ได้ 

  • คุ้มครองกรณีชราภาพ จะได้รับเงินก้อนเมื่อครบกำหนดอายุตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์

  • คุ้มครองผู้เอาประกันที่ทำประกันแบบออมทรัพย์/สะสมทรัพย์ เป็นหลักประกันที่นอกจากจะช่วยคุ้มครองชีวิตแล้ว ยังเพิ่มผลตอบแทนในระยะยาวอีกด้วย

ทั้งนี้ ประกันชีวิตแต่ละประเภท ความคุ้มครองแตกต่างกัน คุณสมบัติและเงื่อนไขก็แตกต่างกัน ควรศึกษาข้อมูลจากตัวแทนประกันก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมกับความต้องการของคุณมากที่สุด

 

ประกันชีวิต+ประกันสุขภาพ ความเหมือน ความต่าง

หลาย ๆ คน อาจเข้าใจผิดว่า ประกันชีวิต และ ประกันสุขภาพ เป็นประกันประเภทเดียวกัน แต่จริง ๆ แล้ว ประกันทั้ง 2 แบบ มีความแตกต่างกันทั้งวัตถุประสงค์ ความคุ้มครอง และเบี้ยประกัน

ประกันชีวิต คุ้มครองอะไรบ้าง

สำหรับ ประกันชีวิต จะมุ่งเน้นไปที่การให้ความคุ้มครอง กรณีเสียชีวิต โดยผู้รับผลประโยชน์ที่ได้ระบุชื่อเอาไว้ในกรมธรรม์จะได้รับเงินชดเชยตามที่ระบุไว้ เป็นการซื้อความคุ้มครองให้กับคนที่รัก

 

 

ประกันสุขภาพ คุ้มครองอะไร

สำหรับ ประกันสุขภาพ มุ่งเน้นไปที่การให้ความคุ้มครอง ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล กรณีเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย 

 

เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง ประกันชีวิต กับ ประกันสุขภาพ

 

  ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ

ความคุ้มครอง

กรณีเสียชีวิต

ค่ารักษาพยาบาล

ผู้รับผลประโยชน์

ครอบครัว ผู้รับผลประโยชน์ตามระบุในกรมธรรม์

ผู้เอาประกัน

ระยะเวลาคุ้มครอง

ตามระยะเวลาที่ระบุในกรมธรรม์ หรือ ตลอดชีพ

ตามระยะเวลาที่ระบุในกรมธรรม์

เบี้ยประกัน

ขึ้นอยู่กับความคุ้มครอง อายุ และสุขภาพ

ขึ้นอยู่กับความคุ้มครอง อายุ และเพศ

 

จะเห็นได้ว่า ทั้ง ประกันชีวิต และ ประกันสุขภาพ แม้ได้ชื่อว่าเป็น "ประกัน" แต่รูปแบบความคุ้มครอง เบี้ยประกัน มีความแตกต่างกันพอสมควรเลย เพราะฉะนั้น ก่อนเลือกทำประกัน ควรศึกษาข้อมูลเปรียบเทียบอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ ปรึกษาตัวแทนประกันที่สามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับประกันที่ตรงกับความต้องการของคุณ เพราะการเลือกประกันที่เหมาะสม จะช่วยให้ได้รับความคุ้มครองและคุ้มค่า ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

 

หากคุณกำลังมองหาประกันชีวิตที่เหมาะกับความต้องการของคุณ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย มีแบบประกันชีวิตให้เลือกไม่ว่าจะเป็น ประกันสุขภาพ ประกันภัยการเดินทาง หรือมองหา ประกันชีวิต ลดหย่อนภาษี สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง CIMB Thai Care Center 02 626 7777 หรือ คลิกที่นี่

 


คุณอาจสนใจ